7 วิธีทำให้ชีวิตสนุกและมีความสุข
จากบทความครั้งที่แล้วผมได้พูดถึงให้เลือกงานทําที่เรามีความสุข แล้วในระยะยาวเราจะประสบความสําเร็จได้ดีนะครับ แต่อย่างไรก็ตามในแต่ละวันเนี่ย อาจจะมีสิ่งรบกวนต่างๆที่ทําให้เรามีความสุขน้อยลง หรือมีความทุกข์ในชีวิตในแต่ละวันนะครับ ผมก็เลยได้รวบรวม 7 วิธีนะครับที่จะทําให้เราเนี่ย กลับไปมีความสุขอีกครั้งนึงหลังจากที่เราเจอความทุกข์ในแต่ละวันนะครับ วิธีที่ 1 ครับ เราก็ต้องมีการปล่อยวางไปบ้างนะครับ บางสิ่งบางอย่างในชีวิตเนี่ยที่มันเข้ามาไม่ได้ดังใจ อาจจะโดนเจ้านายว่า ลูกค้าต่อว่า ลูกค้าไม่ซื้อของ โดนครอบครัวต่อว่า โดนแฟนสามีภรรยาต่อว่า หรือว่ามีเรื่องที่เราไม่ชอบใจในแต่ละวันเนี่ย ผมอยากจะให้เราปล่อยวางไว้บ้างครับ คิดซะว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ทุกคนนะครับ ที่ต้องมาเจอเรื่องไม่ดี แล้วถ้าเกิดเราไม่ปล่อยวางเลยเนี่ย มันเหมือนมีน้ําหนักกดอยู่ที่หัวไหล่เราตลอดเวลา เราจะต้องแบกความทุกข์ไปตลอดเวลาครับ แต่ถ้าเกิดเราปล่อยวางเนี่ยนะครับ มันเหมือนกับเราเอาน้ําหนักออกจากตัวเรา ออกจากไหล่เรา แล้วเราจะรู้สึกสบายมากขึ้น ยกตัวอย่างผมเองนะครับ หลายๆครั้งเหตุการณ์ในชีวิต ที่ผมคิดว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมันเป็นสิ่งที่เป็นความทุกข์ เป็นสิ่งที่ทําให้เรารู้สึกไม่สบายใจ แต่พอผ่านมาเมื่ออาทิตย์นี้ เรารู้สึกว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หลายๆครั้งที่เรื่องเหล่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องดีด้วยซ้ํา วิธีที่ 2 ให้ทําตาม passion ของเรา passionคือสิ่งที่เราอยากจะทํา สิ่งที่เรารู้สึกว่าเราทําแล้วมีความสุข สนุกกับมันนะครับ passion ของเราเนี่ยอาจจะไม่ใช่งานประจํา ไม่ใช่งานที่เราทํา ณ ตอนนี้ก็ได้ อาจจะเป็นงานอดิเรก แต่ถ้าวันใดวันนึงเนี่ยนะครับ การที่เราทําตาม passion ของเราเนี่ยนะครับ…
จากบทความครั้งที่แล้วผมได้พูดถึงให้เลือกงานทําที่เรามีความสุข แล้วในระยะยาวเราจะประสบความสําเร็จได้ดีนะครับ แต่อย่างไรก็ตามในแต่ละวันเนี่ย อาจจะมีสิ่งรบกวนต่างๆที่ทําให้เรามีความสุขน้อยลง หรือมีความทุกข์ในชีวิตในแต่ละวันนะครับ ผมก็เลยได้รวบรวม 7 วิธีนะครับที่จะทําให้เราเนี่ย กลับไปมีความสุขอีกครั้งนึงหลังจากที่เราเจอความทุกข์ในแต่ละวันนะครับ
วิธีที่ 1 ครับ เราก็ต้องมีการปล่อยวางไปบ้างนะครับ
บางสิ่งบางอย่างในชีวิตเนี่ยที่มันเข้ามาไม่ได้ดังใจ อาจจะโดนเจ้านายว่า ลูกค้าต่อว่า ลูกค้าไม่ซื้อของ
โดนครอบครัวต่อว่า โดนแฟนสามีภรรยาต่อว่า หรือว่ามีเรื่องที่เราไม่ชอบใจในแต่ละวันเนี่ย
ผมอยากจะให้เราปล่อยวางไว้บ้างครับ คิดซะว่าเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ทุกคนนะครับ
ที่ต้องมาเจอเรื่องไม่ดี แล้วถ้าเกิดเราไม่ปล่อยวางเลยเนี่ย มันเหมือนมีน้ําหนักกดอยู่ที่หัวไหล่เราตลอดเวลา เราจะต้องแบกความทุกข์ไปตลอดเวลาครับ
แต่ถ้าเกิดเราปล่อยวางเนี่ยนะครับ มันเหมือนกับเราเอาน้ําหนักออกจากตัวเรา ออกจากไหล่เรา
แล้วเราจะรู้สึกสบายมากขึ้น ยกตัวอย่างผมเองนะครับ หลายๆครั้งเหตุการณ์ในชีวิต
ที่ผมคิดว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วมันเป็นสิ่งที่เป็นความทุกข์ เป็นสิ่งที่ทําให้เรารู้สึกไม่สบายใจ
แต่พอผ่านมาเมื่ออาทิตย์นี้ เรารู้สึกว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
หลายๆครั้งที่เรื่องเหล่านั้นกลับกลายเป็นเรื่องดีด้วยซ้ํา
วิธีที่ 2 ให้ทําตาม passion ของเรา
passionคือสิ่งที่เราอยากจะทํา สิ่งที่เรารู้สึกว่าเราทําแล้วมีความสุข สนุกกับมันนะครับ
passion ของเราเนี่ยอาจจะไม่ใช่งานประจํา ไม่ใช่งานที่เราทํา ณ ตอนนี้ก็ได้
อาจจะเป็นงานอดิเรก แต่ถ้าวันใดวันนึงเนี่ยนะครับ การที่เราทําตาม
passion ของเราเนี่ยนะครับ สิ่งที่เป็นงานอดิเรกวันนี้ สิ่งที่ยังไม่สร้างรายได้ในวันนี้นะครับ
ในอนาคตเนี่ย มันจะสามารถสร้างรายได้ให้เราได้อย่างดีเลยนะครับ
โดยเฉพาะถ้าเกิดเป็นในเรื่องของการทํางานเรื่องอาชีพแล้ว
อย่างที่ผมพูดไว้ใน podcast ตอนที่แล้วนะครับ
บางครั้งเรามีอาชีพ มีการงาน เป็นสิ่งที่ควรจะทํา อาจจะเป็นงานที่ตรงสายอาชีพของเรา
หรือเป็นสิ่งที่ครอบครัวคาดหวังให้เราทํา แต่โดยในระยะยาวแล้วนะครับเราจะประสบความสําเร็จเนี่ยเราควรเลือกจากงานที่เรามี passion หรืองานที่เรามีความสุขนั่นเองนะครับ
วิธีที่ 3 นะครับเราจะต้องรักษาสุขภาพนะครับ
ถ้าเกิดเรามีสุขภาพไม่ดี ต่อให้เรามีเรื่องที่คิดว่ามีความสุขเข้ามาเนี่ย
แต่สุขภาพร่างกายเรายังอ่อนแออยู่ ยังเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่นะครับ
เราก็ไม่สามารถทําชีวิตให้สนุกแล้วก็มีความสุขได้นะครับ เพราะฉะนั้นการรักษาสุขภาพเนี่ยเป็นเรื่องที่สําคัญมากมากเลยนะครับ ใน podcast ครั้งนี้ ผมไม่ได้ลงรายละเอียดนะครับ
ว่าจะรักษาสุขภาพโดยละเอียดยังไงบ้าง แต่โดยหลักการทั่วๆไปที่ผมใช้ในแต่ละวัน
แต่ละอาทิตย์ละกันนะครับ อย่างแรกนะครับผมอยากจะให้ทุกคนฝึกหายใจนะครับ
ผมเองก็เพิ่งเรียนรู้เรื่องลมปราณมาเมื่อไม่นานนี้นะครับ การฝึกหายใจเป็นเรื่องที่สําคัญมากๆที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีนะครับ เบื้องต้นนะครับที่เราจะพอทําได้ก่อนเลยนะครับ
ก็คือให้ฝึกหายใจลึกนะครับอาจจะเกิดจากการที่เราหายใจเข้าไปลึก
ๆ ก่อนทีนึง แล้วก็หายใจออกมาครับ ไม่จําเป็นต้องกลั้นไว้ก็ได้นะครับถ้าเกิดกลั้นไว้แล้วเราจะรู้สึกอึดอัด
ไม่สบายใจนะครับ ลองหายใจเข้าลึก ๆ แล้วก็หายใจออกยาว ๆ ในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร ให้สัก
10 ครั้งต่อหนึ่งรอบ ถ้าเกิดเรามีสวนสาธารณะหรือสวนที่บ้าน หรือจุดที่ได้รับออกซิเจนก็จะดีมาก
ๆ เลยนะครับ
ถัดไปนะครับผมอยากจะพูดถึงเรื่องของการออกกําลังกาย
การออกกําลังกายสําคัญมาก ร่างกายเราก็เหมือนเครื่องจักรเครื่องยนต์
มันก็ต้องมีการเคลื่อนไหวยิ่งทุกวันนี้เราทํางานออฟฟิศส่วนใหญ่เนี่ย มาถึงที่ออฟฟิศแล้วก็นั่งอยู่ที่โต๊ะ มีเวลาเดินขยับร่างกายได้แปปเดียว ตอนเย็นก็กลับมาที่บ้านนะครับ
มานั่งดูมือถือต่อนะฮะ ก็จะทําให้เครื่องจักรร่างกายเราในระยะยาวเนี่ยนะครับไม่สามารถที่แบบใช้งานได้ดีนะครับ การออกกําลังกายที่ผมใช้อยู่นะครับก็ไม่จําเป็นว่าต้องลงทุนไปฟิตเนสแพงๆก็ได้นะครับ
ผมซื้อลู่วิ่งมานะครับเครื่องนึงก็หมื่นกว่าบาทเท่านั้นเอง
เป็นลู่วิ่งที่พอใช้ได้ตกเย็นหลังจากที่ผมกลับมาที่บ้านหรือบางวันที่ผมทํางานที่บ้าน
ผมก็จะวิ่งประมาณสักครึ่งชั่วโมงถึง40 นาที ซึ่งการวิ่งตรงนี้ก็ไม่จําเป็นต้องหักโหมอะไรหนักเลยนะครับ
เป็นการวิ่งในสปีดปกติ วิ่งที่สปีด7 สปีด8 ก็ได้ คือวิ่งต่อเนื่องประมาณสัก 25 ถึง 30 นาที
รวม warm up ด้วย เท่านี้ล่ะครับ อาทิตย์นึงให้ทําอย่างน้อยสัก
5 ครั้งขึ้นไป ร่างกายคุณก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงดีขึ้นนะครับ
แล้วผมก็รู้สึกว่าหลังจากที่ผมออกกําลังกายแล้ว ผมก็นอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนได้สนิทมากขึ้นด้วยนะครับ
วิธีที่ 4 เนี่ยผมอยากจะให้เราออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ ในแต่ละวัน ในแต่ละอาทิตย์บ้างนะครับ
สิ่งใหม่ใหม่ในที่นี้ก็เป็นได้หลายอย่าง อย่างแรกอาจจะเป็นสภาวะแวดล้อมใหม่ใหม่ก็ได้
การได้ออกไปท่องเที่ยวนะฮะ เดือนนึงหรือเดือนสองเดือนเนี่ย เราอาจจะแพลนว่าเราออกไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด ก็ไม่จําเป็นต้องไกลมากก็ได้ขับรถไปใกล้ๆนะครับ
การที่ออกได้ไปเปลี่ยนบรรยากาศตรงนี้เนี่ยจะทําให้จิตใจรู้สึกว่าเรามีความสุขมากขึ้นครับ
ออกไปเจอภูเขา ไปเจอทะเลนะครับ หรือแม้กระทั่งการเดินทางในแต่ละวันนะครับ
เราลองเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางดูก็ได้ วันนี้เราลองเดินทางไปเส้นนี้ วันถัดไปเราลองไปเดินทางอีกเส้นหนึ่ง อาจจะได้เจอสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ เจออะไรใหม่ ๆนะครับ ก็จะทําให้เรามีความสุขมากขึ้นเช่นกันนะครับ
วิธีที่ 5 ก็คือผมอยากจะให้เรามีเพลงที่ชอบครับ
แล้วก็อยากจะให้เราฟังเพลงที่เราชอบตอนที่เรารู้สึกดาวน์หรือท้อแท้ บางคนอาจจะเป็นเพลงไทย
บางคนอาจจะเป็นเพลงสากลได้หมดเลยนะครับ แต่มีข้อแม้อย่างนึงนะครับ อย่าฟังเพลงเศร้ามากเกินไป
เพลงเศร้าอกหักนะครับอันนี้ยิ่งฟังยิ่งดาวน์นะครับ อยากจะให้มีเพลงเร็วๆ เป็นจังหวะดีๆ
ฟังแล้วรู้สึกรู้สึกว่าครึกครื้นนะครับ รู้สึกว่ามี motivate ร่างกาย active
อย่างตัวผมเองเนี่ย ทุกๆเช้านะครับ และตอนเย็นนะครับ หลังจากที่เหนื่อยๆจากการทำงานนะครับ
ผมก็จะมีเพลงที่ list อยู่ในอัลบั้มเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น apple music หรือ Spotify เนี่ย
เป็นเพลงที่ทําให้รู้สึกคึกคัก รู้สึกว่ามีอารมณ์ดี กระตือรือร้นมากมาย
อันนี้เราฟังเพลงแค่ไม่กี่นาที ก็รู้สึกกระตือรือร้นแล้ว หรือแม้กระทั่งตอนที่เรากำลังเดินทางไปที่ทํางาน
ระหว่างกลับจากที่ทํางาน เราขับรถอยู่หรือเราอยู่บนรถไฟฟ้า รถใต้ดิน นั่งอยู่ในรถเมล์
เราใช้หูฟังนะครับ เราก็สามารถฟังเพลงที่เราชอบได้ อันเนี้ยมันจะเป็นการสร้างจังหวะ
สร้างทําให้ชีวิตเรานะครับ มันจะเกิดการmotivation ที่ดีนะครับ
เพราะฉะนั้นอย่าลืมไป list หาเพลงที่ชอบกันนะครับ ยกเว้นเพลงช้าๆ เศร้าๆ นะ
อย่าเอาตรงนั้น เลือกเพลงที่คึกคัก เพลงที่ motivate นะครับ
วิธีที่ 6 ผมอยากให้เราแต่ละคนมีงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
งานอดิเรกที่ชื่นชอบตรงนี้จะดีมากๆเลย เพราะว่ามันเหมือนกิจกรรมที่ผ่อนคลายเรา หลังจากที่เราทํางานประจําหรือทํางานปกติมาเหน็ดเหนื่อย
งานอดิเรกที่ชื่นชอบก็ไม่จําเป็นต้องเป็นอะไรที่ซีเรียสมากก็ได้ จริง ๆ การฟังเพลงก็เป็นงานอดิเรก การดูซีรีส์ การดูหนังที่ชอบ การเล่นดนตรีที่ชอบ อย่างผมเองเนี่ย ผมก็อ่านหนังสือผ่อนคลาย
อ่านหนังสือทั่วๆ ไป ที่ไม่เกี่ยวกับการงานธุรกิจ มันก็เป็นการพักสมอง ฝึกความคิดอีกแบบนึง แล้วผมเองเนี่ยผมก็ชอบฟัง podcast ชอบฟัง YouTube ดีๆ ด้วยเช่นกัน ที่ให้แรงบันดาลใจ ที่ผ่อนคลายนะครับ
หรือการออกกําลังกาย หลายๆคนก็มองว่าการออกกําลังกาย
ก็เป็นงานอดิเรกได้บางคนก็ออกไปวิ่งกันรวมกลุ่มบางคนก็ชอบออกไปเล่นแบดอย่างเงี้ย
ยกตัวอย่างอันนี้ก็เป็นงานอดิเรกที่ดี ผมอยากจะให้ทุกคนมีงานอดิเรกนะครับ
ไม่จําเป็นต้องคิดว่าอันนี้ผิดถูกไม่จําเป็นต้องทําตามคนอื่นนะครับ
แต่ละอาทิตย์ผมอยากจะให้คุณมีเวลาที่จะไปโฟกัสหรือว่าไปใช้กับงานอดิเรกของตัวเองบ้างพอสมควรนะครับ
วิธีที่ 7 นะครับผมอยากจะให้คุณมีเพื่อนสนิทนะครับ แล้วก็มีครอบครัวที่ดีนะครับ
เพราะว่าเพื่อนสนิทเนี่ยสำคัญจริงครับ อาจจะไม่ใช่เพื่อนร่วมงานแต่ว่าจะเป็นเพื่อนที่เราพูดคุยได้ทุกเรื่องพูดคุยเปิดใจได้ไม่ได้มีผลประโยชน์มีธุรกิจอะไรเข้ามาเกี่ยวข้องนะครับ ตรงเนี้ยจะทําให้เรารู้สึกว่าดี
การที่เรามีอะไรและเรามีใครสักคนนึงที่จะมาระบายความในใจพูดคุย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเล่าให้เพื่อนฟังอย่างเดียว ให้ฟังสิ่งที่เพื่อนเล่ากลับด้วยนะครับผลัดกัน
การที่เราระบายอะไรแล้วก็ฟังที่คนอื่นระบายออกมาบ้างไงครับจะทําให้เรารู้สึกดี
เหมือนกับเราไม่รู้สึกโดดเดี่ยวนะครับ ถ้าเกิดหลายๆคนคิดว่าการพูดคุยกับทางครอบครัว
พ่อแม่ พูดคุยให้สามี ภรรยาฟัง ญาติพี่น้องฟัง ก็ทําได้เช่นกันนะครับ
ทบทวนกันอีกครั้งนะครับว่า วิธี 7 ข้อตรงนี้มีอะไรบ้างที่จะทําให้ชีวิตเราสนุกแล้วก็มีความสุขทุกๆวันที่จะมาเปลี่ยนอารมณ์เราได้นะครับ ข้อแรกนะครับเราก็คือต้องปล่อยวางบ้างในหลายๆเรื่องที่มันเป็นความทุกข์ครับเอามันออกไป ข้อ 2 ทําตาม passion ทําตามสิ่งที่เราอยากจะทํานะครับ
ข้อที่ 3 ต้องรักษาสุขภาพให้ดีอย่างต่อเนื่องนะครับ ข้อที่ 4 ครับ ออกไปเจอสภาพแวดล้อมใหม่ใหม่บ้าง
ออกไปเจอเพื่อนใหม่ใหม่ สิ่งแวดล้อมใหม่ใหม่บ้างนะครับ ข้อที่ 5 ครับให้ลิสต์มีเพลงที่ชื่นชอบออกมานะครับ ทุกๆครั้งที่เรารู้สึกดาวน์รู้สึกเศร้าเนี่ย ให้เราฟังเพลงที่ชื่นชอบแล้วเราจะกลับมีชีวิตชีวามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง ข้อที่ 6 ให้หางานอดิเรกอะไรที่ผ่อนคลาย relax หลังจากที่เราทํางานทุกๆวัน
ข้อที่ 7 มีเพื่อนสนิท มีครอบครัว มีคนใกล้ชิดที่สามารถพูดคุยกันได้
ระบายเล่าอะไรให้เขาฟังได้ แล้วก็รับฟังเรื่องของเขาด้วยเช่นกันนะครับ
ทั้งหมดนี้เป็น 7 เคล็ดลับที่จะทําให้ชีวิตเราสนุก มีความสุขทุกวันนะครับ ขอให้ทุกคนเอาไปใช้กันนะครับ
แล้วพบกันใน บทความหน้าครับ
สวัสดีครับ
เพิ่มเติมเกี่ยวกับอาจารย์โทนี่
LinkedIn https://www.linkedin.com/in/suppakornbunchua/
Youtube https://www.youtube.com/channel/UCYk-LSYvFW_tI8cQXkRJN-w
Podcast https://open.spotify.com/show/1j9HyQhTWpCpmcw578SQeL?si=eec8844dad0747da
Facebook https://www.facebook.com/mastertonysellingsuccess
TikTok https://www.tiktok.com/@sellingsuccess
TikTok shop สินค้า https://vt.tiktok.com/ZSLPyxoN8/