เทคนิคการขาย

ความกลัวการถูกปฏิเสธ (Fear of Rejection) คือกับดักที่ฉุดรั้งนักขายมือใหม่ และยังเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ขวางกั้นความก้าวหน้าในอาชีพการขายของคุณ หากคุณกำลังเผชิญกับความรู้สึกนี้ บทความนี้จะนำเสนอ เทคนิคการขาย และแนวทางการ อบรมการขาย ที่ใช้งานได้จริง เพื่อให้คุณสามารถเผชิญหน้าและเอาชนะความกลัวนั้นได้อย่างถาวร ขั้นตอนที่ 1: เผชิญหน้าและจำแนก “ความกลัว” ให้ชัดเจน ความกลัวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่นักขายที่ประสบความสำเร็จจะจัดการกับมันอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่พยายามหลีกเลี่ยงมัน ก้าวแรกของนักขาย: เป้าหมายคือการ “ลุยไปกับความกลัว” โดยเริ่มจากความกลัวที่น้อยที่สุดก่อน เมื่อคุณพิชิตความกลัวเล็ก ๆ ได้ ความมั่นใจในการรับมือกับความกลัวที่ใหญ่กว่าก็จะตามมาเอง ขั้นตอนที่ 2: เตรียมพร้อมด้วย Script เพื่อลดความตื่นตระหนก ความไม่พร้อมคือแหล่งกำเนิดของความกลัว เมื่อคุณรู้ว่าควรจะพูดอะไรในทุกสถานการณ์ ความตื่นตระหนกจะลดลงอย่างมาก  ฝึกฝนการใช้ Sales Script: หลักสูตร อบรมการขาย : การเตรียมพร้อมที่ดี คือการลดความไม่แน่นอนที่ก่อให้เกิดความกลัว ดังนั้นจงฝึกฝน Script ของคุณจนกว่าจะพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขั้นตอนที่ 3: อัปเกรดความมั่นใจด้วย ทักษะการปิดการขาย ขั้นสูง เมื่อคุณเริ่มคุ้นชินกับการโทรหาลูกค้าและการถูกปฏิเสธเล็กน้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการเพิ่มอาวุธสำคัญให้กับตัวเอง…

นักขายจำนวนมากมุ่งเน้นแต่การหาลูกค้าใหม่ (Cold Leads) แต่กลับมองข้ามแหล่งรายได้มหาศาลที่ซ่อนอยู่! การทำความเข้าใจ เทคนิคการขาย และการใช้ ทักษะการขาย ที่ถูกต้องในการเข้าหาลูกค้ากลุ่มนี้ จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและเพิ่มอัตรา ปิดการขาย ได้อย่างน่าทึ่ง บทความนี้จะเปิดเผย 2 ขุมทรัพย์ลูกค้าที่คุณไม่ควรทิ้งเงินไว้บนโต๊ะอีกต่อไป ขุมทรัพย์ที่ 1: ลูกค้าเก่า (The Power of Repurchase) ลูกค้าเก่าคือสินทรัพย์ที่มีค่าที่สุดในการขาย เพราะพวกเขาคือคนที่ “เคยไว้ใจ” และ “เคยจ่ายเงิน” ให้กับคุณแล้ว หากคุณไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวัง การขายซ้ำให้กับกลุ่มนี้จึงเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด ทำไมลูกค้าเก่าถึงขายง่ายกว่า? เคล็ดลับ อบรมการขาย: การลงทุนในความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าเพียงเล็กน้อย (เช่น การส่งการ์ดอวยพร หรือการให้ส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า Loyalty) จะให้ผลตอบแทนในการ ปิดการขาย ซ้ำที่คุ้มค่ากว่ามาก ขุมทรัพย์ที่ 2: ลูกค้าที่ถูกแนะนำ (The Power of Referral) นี่คือ “ทองคำ” ที่แท้จริง! การขายผ่านการแนะนำ (Referral) เป็นหนึ่งใน เทคนิคการขาย…

คุณกำลังขายสินค้าหรือบริการที่มีราคาสูงกว่าคู่แข่งในตลาดใช่หรือไม่? อย่ากังวล! การเป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมไม่ใช่จุดอ่อน แต่คือโอกาสสำคัญที่คุณจะใช้ ทักษะการขาย และ เทคนิคการขาย ที่ถูกต้อง เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ใช่และสร้างยอดขายที่มั่นคงได้ บทความนี้จะเผย 2 ขั้นตอนสำคัญที่ใช้ได้จริงในการ ปิดการขาย สินค้าราคาสูง ขั้นตอนที่ 1: คัดกรองลูกค้าที่ใช่ด้วยความกล้า กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของนักขายสินค้าพรีเมี่ยมคือการรู้จักคุณค่าของ “เวลา” มากกว่า “เงิน” การเสียเวลาไปกับการไล่ตามลูกค้าที่ไม่พร้อมซื้อ คือการสูญเสียโอกาสในการดูแลลูกค้าที่มีศักยภาพ เทคนิคการคัดกรองแบบตรงไปตรงมา: เคล็ดลับ อบรมการขาย: นักขายมืออาชีพจะใช้เวลากับลูกค้าที่มีศักยภาพในการซื้อสูงสุดเท่านั้น เพราะการดูแลลูกค้าที่พร้อมจ่าย 1 ราย มีค่ามากกว่าการตามลูกค้าที่ไม่พร้อมจ่าย 10 ราย ขั้นตอนที่ 2: ค้นหา “จุดเจ็บปวด” ของลูกค้าที่ใช้คู่แข่งอยู่ เมื่อคุณผ่านขั้นตอนที่ 1 มาแล้ว นั่นหมายความว่าลูกค้ารายนี้มีกำลังซื้อ แต่กำลังใช้สินค้าของคู่แข่งอยู่ นี่คือช่วงเวลาที่คุณต้องใช้ เทคนิคการขาย ขั้นสูงเพื่อสลับใจลูกค้ามาหาคุณ  การตั้งคำถามเพื่อหาช่องว่างสู่การปิดการขาย: เริ่มต้นด้วยคำถามง่ายๆ แต่ทรงพลัง: “คุณลูกค้าครับ ปัจจุบันใช้สินค้าหรือบริการประเภทนี้อยู่หรือไม่? และใช้งานเป็นอย่างไรบ้างครับ มีจุดเล็กๆ น้อยๆ อะไรที่ไม่พอใจหรือไม่ครับ?”…

3 เทคนิคการฟัง ที่สุดยอดกว่าการพูด: กุญแจสู่การ ปิดการขาย ที่ประสบความสำเร็จหลายคนเข้าใจผิดว่าการจะเป็นนักขายที่เก่งกาจได้นั้น ต้องเป็นคนที่ “พูดเก่ง” หรือ “พูดเยอะ” เท่านั้น แต่ในโลกแห่งการ ปิดการขาย จริง ๆ แล้ว อวัยวะที่ทรงพลังที่สุดและถูกใช้มากที่สุดกลับไม่ใช่ปาก แต่เป็น “หู” ต่างหาก! การที่คุณจะประสบความสำเร็จในการ ปิดการขาย ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถ “ตั้งใจฟัง” ลูกค้าได้มากแค่ไหน วันนี้เราจะมาแชร์ 3 ทักษะการขาย สำคัญที่เป็น เทคนิคการขาย จากวิดีโอของอาจารย์โทนี่ ที่จะช่วยให้คุณใช้การฟังเป็นอาวุธลับในการทำยอดขายได้อย่างเหนือชั้น 3 เทคนิคการขายด้วยการฟัง เพื่อยกระดับ ทักษะการขาย ผลเสียของการพูดแทรก: เสียมารยาท: ลูกค้ารู้สึกว่าคุณไม่ให้ความเคารพหรือไม่ได้ตั้งใจฟัง ไม่เป็นมืออาชีพ: บั่นทอนความน่าเชื่อถือของคุณ ปิดการขายไม่ได้: คุณพลาดโอกาสในการรับข้อมูลสำคัญ วิธีฝึกฝนเพื่อพัฒนาทักษะ: หากคุณไม่แน่ใจว่าตนเองชอบพูดแทรกหรือไม่ ให้ลองบันทึกเสียงการสนทนา (ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ การประชุมต่อหน้า หรือออนไลน์) และนำมาฟังย้อนหลัง คุณจะสามารถจับตัวเองได้ว่ามีการพูดแทรกหรือเติมคำให้ลูกค้าไปกี่ครั้ง ซึ่งนี่คือขั้นตอนแรกในการพัฒนา เทคนิคการขาย และ…

หลายคนมองว่างานขายเป็นอาชีพที่ต้อง “ง้อ” “ตื้อ” หรือเป็นงานที่ “เสียศักดิ์ศรี” ทำให้เกิด Mindset ที่ไม่ดีและขัดขวางความสำเร็จในการ ปิดการขาย ทั้งที่จริงแล้ว ทุกความสำเร็จในชีวิตล้วนเกี่ยวข้องกับ ทักษะการขาย! นี่คือ 2 Mindset สำคัญที่จะเปลี่ยนมุมมองของคุณต่องานขาย ทำให้คุณรักและสนุกกับการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ผ่าน เทคนิคการขาย และการ อบรมการขาย ที่ถูกจุด! 1. ขายตัวเอง: งานขายอยู่ในทุกตำแหน่งและทุกวันของคุณ คุณอาจคิดว่างานขายมีแค่ตำแหน่งพนักงานขายเท่านั้น แต่ความจริงคือ… คุณ “ขาย” ตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ตัว 2. จาก “การเอาเงิน” สู่ “การให้คุณค่า” หากคุณรู้สึกว่างานขายเป็นการ “เอาเงิน” จากลูกค้า นั่นจะส่งผลให้สีหน้า ท่าทาง และพลังงานของคุณเต็มไปด้วยความกระหายที่จะ ปิดการขาย จนทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด ยกตัวอย่าง: การขายคอร์สฝึกอบรมไม่ใช่การ “เอาเงินค่าคอร์ส” แต่เป็นการ “ให้” ความรู้ ให้โอกาสในการพัฒนา ทักษะการขาย และแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จของนักเรียนคนอื่นๆ สรุปเส้นทางสู่ความสำเร็จ จำไว้เสมอว่า…

บ่อยครั้งที่นักขายพลาดโอกาสใน การปิดการขาย ไม่ใช่เพราะขาดความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเพราะละเลย “เรื่องง่ายๆ” ในขั้นตอนการเตรียมพร้อม การเตรียมตัวที่ไม่ดีทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุณไม่พร้อมขาย และนั่นทำให้พวกเขาไม่พร้อมซื้อ นี่คือ 3 ขั้นตอนสำคัญในการเตรียมตัวเพื่อเพิ่ม ทักษะการขาย และโอกาสในการสร้างรายได้ของคุณ 1. มี “Call Script” เป็นอาวุธมาตรฐาน ก่อนที่คุณจะโทรหาลูกค้า (Cool Calling) หรือรับสายลูกค้าที่โทรเข้า คุณจำเป็นต้องมีบทพูดที่เตรียมพร้อมไว้เสมอ สิ่งที่เรียกว่า Call Script นี้คือหนึ่งใน เทคนิคการขาย พื้นฐานที่ทรงพลังที่สุด 2. เตรียม “พลังงาน” (Energy) ให้พร้อมเสมอ ลูกค้าไม่ได้ตัดสินคุณแค่จากเนื้อหาที่คุณพูดเท่านั้น แต่พวกเขาตัดสินคุณจาก “พลังงาน” ที่คุณส่งออกไป ไม่ว่าจะเป็นการคุยโทรศัพท์ วิดีโอคอล หรือการเข้าพบปะโดยตรง 3. เตรียมพร้อมรับมือ “ข้อโต้แย้ง” ล่วงหน้า ปัญหาใหญ่ที่ขัดขวางการ ปิดการขาย คือการเผชิญหน้ากับข้อโต้แย้งของลูกค้าโดยไม่ได้เตรียมตัว เช่น “ไม่มีเงิน” “ไม่มีเวลา” หรือ “ขอคิดดูก่อน” โบนัส: Active…

หากคุณกำลังมองหาความสำเร็จในอาชีพนักขาย ไม่ว่าคุณจะรู้เทคนิคการขายหรือกลยุทธ์ปิดการขายมามากแค่ไหน แต่สิ่งที่เป็นรากฐานสำคัญและถูกมองข้ามไม่ได้เลยคือ Mindset ของนักขายมืออาชีพที่ถูกต้อง นี่คือ 3 แนวคิดหลักจาก อาจารย์โทนี่เทพการขาย ที่จะช่วยอัปเกรดทักษะการขายของคุณและนำไปสู่การปิดการขายได้อย่างมืออาชีพ 1. Mindset แห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต: “เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว” ความรู้และเทคนิคการขายมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น Mindset ข้อแรกที่คุณต้องมีคือการเป็น “น้ำไม่เต็มแก้ว” อยู่เสมอ 2. Mindset ของนักสื่อสารชั้นยอด: สื่อสาร “รู้เรื่อง” และ “เห็นภาพ” การเป็นนักขายที่ดีไม่ได้หมายถึงการพูดเก่งอย่างเดียว แต่คือการเป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่การปิดการขายที่สำเร็จ 3. Mindset แห่งความรับผิดชอบ: “Commitment” ที่ต้องทำได้ตามสัญญา ความน่าเชื่อถือและความไว้ใจคือสกุลเงินที่มีค่าที่สุดในงานขาย และ Mindset แห่ง Commitment คือสิ่งที่สร้างสิ่งนี้ สรุป หากคุณทำตาม 3 Mindset นี้ได้อย่างครบถ้วน นั่นหมายความว่าคุณได้ติดอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดให้กับตัวเองแล้ว และแน่นอนว่าคุณจะกลายเป็น นักขายมืออาชีพ ที่มีรายได้สูงและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในตลาด สนใจพัฒนา ทักษะการขาย และเรียนรู้ เทคนิคการขาย เพื่อให้คุณสามารถ…

ในฐานะผู้นำยุคใหม่ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย เจ้าของธุรกิจ หรือผู้บริหาร การมี Growth Mindset ที่แข็งแกร่งคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนทีมให้เติบโตและประสบความสำเร็จ การพัฒนาชุดความคิดที่ถูกต้องนี้จะส่งผลโดยตรงต่อ ทักษะการขาย และอัตราการ ปิดการขาย ของทั้งทีม บทความนี้จะเปิดเผย 4 ชุดความคิดสำคัญที่ช่วยให้คุณเป็นผู้นำทีมขายที่ลูกน้องเคารพรัก และพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้น Mindset ที่ 1: ถ่อมตัวและกระหายการเรียนรู้ (Humble and Eager to Learn) ผู้นำยุคใหม่รู้ดีว่าตนเอง ไม่สามารถรู้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงเร็ว การยึดติดกับประสบการณ์เดิมคือการปิดกั้นความก้าวหน้า หลักการของผู้นำ: Mindset ที่ 2: กล้าตัดสินใจในเรื่องยาก (Can Make The Tough Decision) ความประนีประนอมในเรื่องที่ผิดพลาดคือยาพิษขององค์กร ผู้นำที่ประสบความสำเร็จต้องสามารถตัดสินใจที่เด็ดขาด แม้จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากทางความรู้สึก การตัดสินใจเพื่อองค์กร: Mindset ที่ 3: กล้าเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานใหม่ (Dare To Change The New Value) ผู้นำที่ถูกดึงตัวมาเพื่อบริหาร…